เมื่อเวลา ๐๙๐๐ ของวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ พล.ร.ต. เอกชัย สุขวรรณโณ ร.น. รอง ผบ.วสท. สปท. ได้ให้การต้อนรับ คณะนายทหารนักเรียนหลักสูตรเสนาธิการร่วมจากสาธารณรัฐเกาหลีใต้ นำโดย พลจัตวา พัค ฮยอง จุน ได้เข้าเยี่ยมชมและรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการให้การศึกษาของวิทยาลัยเสนาธิการทหาร
โดยการเยี่ยมชมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาดูงานการดำเนินการของวิทยาลัยเสนาธิการทหาร และเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านการศึกษาและการฝึกอบรมระหว่างวิทยาลัยเสนาธิการทหารของประเทศไทยและวิทยาลัยเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองสถาบัน โดยในการนำเสนอภารกิจ การจัดของวิทยาลัยเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ และได้มีการแนะนำแนวทางการพัฒนาหลักสูตรในด้านยุทธศาสตร์และการปฏิบัติการร่วมเพื่อเตรียมบุคลากรที่พร้อมต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสนามรบสมัยใหม่
สำหรับสิ่งที่ได้รับมีรายละเอียดที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
๑. ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการของวิทยาลัยเสนาธิการทหาร: คณะผู้เยี่ยมชมได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการจัดการศึกษาและการฝึกอบรม ซึ่งครอบคลุมถึงโครงสร้างหลักสูตร เนื้อหาวิชา และกระบวนการในการพัฒนาศักยภาพนายทหารให้พร้อมต่อการปฏิบัติหน้าที่ทางทหารร่วมและภารกิจยุทธการในอนาคต โดยมีการเน้นการพัฒนาทักษะด้านยุทธศาสตร์และการประสานงานระหว่างเหล่าทัพ
๒. การนำเสนอหลักสูตรวิทยาลัยเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้: คณะผู้เยี่ยมชมได้มีโอกาสแนะนำหลักสูตรและแนวทางการพัฒนานายทหารของวิทยาลัยเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ โดยมุ่งเน้นในด้านการเตรียมบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานร่วมกับกองกำลังหลายเหล่าทัพเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของสงครามสมัยใหม่
๓. การแลกเปลี่ยนมุมมองด้านการทหาร: การเยี่ยมชมครั้งนี้เปิดโอกาสให้ทั้งสองสถาบันได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์เกี่ยวกับการศึกษาและการฝึกทหาร โดยเฉพาะในด้านการปฏิบัติการร่วมในสถานการณ์การรบสมัยใหม่ รวมถึงวิธีการในการพัฒนากำลังพลให้มีความพร้อมในด้านเทคโนโลยีและการใช้งานข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรบสมัยใหม่
๔. เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: นอกจากนี้ การเยี่ยมชมยังเป็นโอกาสในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเกาหลีใต้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างสถาบันการศึกษาทางทหารของทั้งสองประเทศ ถือเป็นการสร้างพื้นฐานสำหรับการสนับสนุนด้านการศึกษาและการร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในอนาคต
การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือทางการทหาร และเป็นการขยายมุมมองในด้านการศึกษาทางการทหารให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายของยุคปัจจุบัน